ChatBox

วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2557

ผลิตภัณฑ์ Empower Network

      ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ย่อมมีวิวัฒนาการมีการเจริญเติบโต มีการเปลี่ยนแปลง เพื่อการอยู่รอด ส่วนสิ่งไหนที่ไม่มีการปรับตัว ไม่มีการพัฒนา ย่อมต้องสูญหายออกไปจากธรรมชาติ เพราะสิ่งที่ดีกว่าย่อมเข้ามาแทนที่ ในโลกของการทำธุรกิจก็ไม่แตกต่างเช่นกัน ธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลง มีการพัฒนารูปแบบอยู่ตลอดเวลา  ธุรกิจนั้นย่อมมีความแข็งแกร่ง และมีโอกาสอยู่รอดในโลกของธุรกิจ แต่ในขณะเดียวกันก็มีอีกหลาย ๆ ธุรกิจที่กำลังจะปิดตัวลงเพราะไม่สามารถปรับตัวเข้ากับรูปแบบของการแข่งขัน ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปได้

     เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ในอดีตเมื่อพวกเราพูดถึงธุรกิจเครือข่าย หลายคนเคงเคยสัมผัสกับธุรกิจประเภทนี้กันมาบ้างแล้วไม่มากก็น้อยแตกต่างกัน ไป หลายคนหวาดกลัว หลายคนผิดหวัง หลายคนล้มเหลว หลายคนแทบไม่อยากพูดถึงธุรกิจประเภทนี้ แต่ในขณะเดียวกันผู้ที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่บนโลกนี้ ล้วนแนะนำให้เราสร้างเครือข่าย (Network) ซึ่งธุรกิจเครือข่ายจะเป็นเครื่องมือที่ทำให้พวกเรามีความมั่นคง และมั่งคั่ง เป็นธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้แบบ Passive Income (ไม่ต้องทำงานก็มีรายได้) เพียงแต่ภาพพจน์ในอดีตที่พวกเราเคยรู้จักกับธุรกิจประเภทนี้ หลายคนเบื่อที่จะต้องถูกตามตื้อ หลายคนเบื่อที่จะต้องมานั่งซื้อสิ้นค้าต่าง ๆ นานา ที่มีราคาสูงกว่าท้องตลาดทั่วไป  

     เมื่อ ยุคสมัยเปลี่ยนไปธุรกิจย่อมมีการเปลี่ยนแปลง ปัจจุบันพวกเราจึงเริ่มเห็นการสร้างธุรกิจเครือข่าย โดยมุ่งเน้นตัวสินค้า ที่เป็นเชิงระบบมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น โปรแกรม Software ต่าง ๆ เนื่องจากสินค้าประเภทนี้เป็นสินค้าที่มีต้นทุนต่ำ และมีอัตราการขยายตัวสูง ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ทำไมช่วงระยะเวลา 5–10 ปีที่ผ่านมา พวกเราได้เห็นผู้คนประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วจากธุรกิจประเภทนี้ อาทิเช่น ระบบ Social Network ของ Facebook , ระบบ Search Engine ของ Google และ Yahoo รวมถึงระบบต่าง ๆ ที่กำลังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง คงถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะได้เรียนรู้วิธีสร้างรายได้จากทั่วโลก วิธีสร้างรายได้ที่แท้จริงจากธุรกิจเครือข่าย


 

 
Viral Blogging System
Empower Network ’s Viral Blogging System

Blogging Platform ที่มีระบบ Support ต่าง ๆ อย่างครบถ้วนจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายที่สูงมากในการจัดสร้าง แต่ที่ Empower Network สมาชิกสามารถสร้าง Blogging ที่พร้อมสำหรับทำการตลาดออนไลน์อย่างสมบูรณ์แบบด้วยตัวของเอง

Inner Circle
Empower Your Life

รับฟังเรื่องราวและข้อคิดต่าง ๆ จากผู้ที่ประสบความสำเร็จ ทั่วโลกผ่านรูปแบบคลิปเสียง ที่พร้อมสร้างแรงบันดาลใจ ให้กับสมาชิก โดยสามารถนำไปฟังได้ทั้งในรถยนต์ , ขณะออกกำลังกาย หรือแม้แต่ตอนทำความสะอาดบ้าน

Costa Rica Intensive
A must have: Costa Rica Mastermind Intensive
for your online marketing education

ประกอบด้วย 11 คลิปวีดีโอ ที่จะช่วยทำให้สมาชิกสามารถพัฒนาธุรกิจของท่านให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการเรียนรู้ทั้งหมดสูงถึง $2,997 แต่สำหรับสมาชิก Empower Network ท่านสามารถเรียนรู้วิธีต่าง ๆ ผ่านสื่อออนไลน์ ได้เองจากที่บ้าน

$15K Formula
The How to Product in the Empower Network

สูตรสำเร็จในการสร้างรายได้ $15,000 จาก Empower Network ที่มีการอัพเดทกลยุทธ์ และเทคนิคด้านการตลาดใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ที่พร้อมส่งมอบให้กับสมาชิกได้นำไปฝึกฝน และสามารถนำไปใช้ร่วมกับธุรกิจอื่น ๆ ได้ นอกจาก Empower Network

Master's Course
Powerful - Lessons of the Masters Course

ทุก ๆ หลักสูตรใน Empower Network ล้วนมีความแตกต่างกันไป และเป้าหมายของ Master's Course คือสมาชิกจะรู้วิธีเริ่มต้นจาก "Zero to Hero" ได้อย่างไร หลังจากที่สมาชิกได้ศึกษาหลักสูตรนี้แล้ว จะทำให้ท่านสามารถรู้วิธีการกำหนดเป้าหมายในธุรกิจของท่านได้อย่างไร


 

Empower Network งานออนไลน์อันดับ 1 ของโลก


https://www.empowernetwork.com/join?id=thainetwork
 
ท่านผู้อ่านสังเกตนะครับ ว่าถ้าท่าน กูเกิลเข้าไปหางานออนไลน์ หรือ โฆษณาที่ท่านเห็นต่างๆ ที่ท่านเห็นทางเมล์ ในการทำเงินออนไลน์ ซึ่งมีจำนวนหลายแสนหน้าใน Google search ท่านนึกดูซิครับ ว่าบริษัทที่ท่านอ่านอยู่ขณะนี้ มันถูกจัดอันดับให้เป็นบริษัทที่อยู่อันดับ1 ของโลก
ผมภูมิใจที่เป็นหนึ่งในคนไทย กลุ่มแรก ที่นำธุรกิจนี้มาเผยแพร่สู่ประเทศไทย ให้คนไทยได้ทำเงินทางอินเทอร์เน็ตจริงๆ ท่านผู้อ่านทุกท่านครับ เหตุผลที่ผมเน้นคำว่าที่ 1 ของโลก อาจจะทำให้ท่านผู้อ่านสงสัยว่าเป็นความคิดของผมเองหรือเป็นข่าวลือ ท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ จาก Alexa.com ครับ

Alexa.com คือการจัดอันดับของเว็บไซต์ทั่วโลก โดยตัวเลขจะแสดงอันดับของการเข้าชมเว็บไซต์

จากการจัดอันดับ การเข้าชม ของบริษัท เครือข่าย บริษัทขายตรง และ ธุรกิจงานออนไลน์ จากทั่วโลก รวมแล้ว 8,700 กว่าบริษัท Empower Network คืออันดับ 1 ของโลกอยู่ในขณะนี้ครับ

หมายเหตุ : หากมีบริษัท เครือข่ายหรืองานออนไลน์ ที่มีการจัดลำดับสูงกว่า Empower Network ผมยินดีจะลบข้อมูลทุกอย่างนี้ออกทันทีครับ

ส่วนเหตุผลที่พี่น้องในไทยเราอาจจะยังไม่คุ้นเคย หรือยังไม่รู้จักกับ Empower Network ดี เมื่อเปรียบเทียบกับต่างประเทศแล้วเนี่ย เนื่องจากว่าข้อมูลของบริษัท ยังไม่มีการแปลเป็นภาษาไทยอย่างเป็นทางการครับ เพราะ Empower Network เป็นบริษัทที่มีอายุเพียง 2 ปี ก่อตั้งมาในเดือน ตุลาคม ปี 2554 แต่มีสมาชิกแล้ว ประมาณ 160,000 ราย ใน 140 ประเทศและมีการจ่ายเงินให้สมาชิกทั้งหมด เป็นเงินกว่า 3 พันล้านบาทครับ (ข้อมูลเดือน ตุลาคม 2556)


ธุรกิจ Empower Network นี้ท่านสามารถทำเงินได้ทั่วโลกครับ เนื่องจากเป็นภาษาอังกฤษ และใช้รหัสเดียว ท่านสามารถแนะนำใครก็ได้ ทั้งที่รู้จักเป็นการส่วนตัว หรือไม่เคยเจอกันมาก่อน ซึ่งตัวผมเอง แทบจะไม่เคยเห็นหน้าทีมงานเลยครับ ส่วนใหญ่คุยทาง Line หรือ อีเมล์ เหมาะสำหรับคนที่โลกส่วนตัวสูงครับงานนี้

ทำไมบริษัทอยู่อันดับ 1 ?

ท่านคงสงสัยนะครับ ว่าทำไมบริษัท Empower Network ถึงได้เข้ามาเป็นบริษัทที่ติดอันดับ1ของโลกได้ แล้วทำไมถึงใช้เวลาเพียง 2 ปี จริงๆแล้วองค์ประกอบ มันมีแค่นี้ครับ

* เป็นบริษัทที่จ่ายเงินจริง

* เป็นอะไรที่ทำเงินง่ายมากๆ

* เป็นบริษัทที่จ่ายคอมมิชชั่นสูงที่สุดในโลก

ที่สำคัญ ท่านลงทุนด้วยเงินเพียง $25เหรียญดอลลาร์ หรือประมาณ 7 ร้อยกว่าบาทครับ ส่วนน้องๆ ทางบ้านที่ยังเรียนหนังสืออยู่ บางทีเงินจำนวนนี้อาจจะมากไปสำหรับนักเรียนนักศึกษาบางคน ผมแนะนำว่า ถ้าสนใจงานนี้ ควรจะปรึกษาผู้ปกครอง หรือ พิจารณาดูอย่างเต็มที่ก่อนนะครับ มันอาจทำให้ท่านเสียการเรียนได้ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการศึกษาครับ ไม่ใช่การทำเงินออนไลน์เสมอไป
https://www.empowernetwork.com/join?id=thainetwork
 

ส่วนเรื่องโปรดักส์ของบริษัทครับ ง่ายสุดๆ เพราะมีเพียง 5 อย่าง และเป็น software ทั้งหมด โดยที่บริษัทจะทำการโปรโมตให้ท่านเอง

โปรดักส์ ?

ผมจะพูดถึงโปรดักส์แรกแล้วกันนะครับ ซึ่งเป็นโปรดักส์ที่ง่ายที่สุดในการใช้ นั่นก็คือ blogging platform หรือ บล็อก ซึ่งราคาของมันอยู่เพียง $25 เหรียญดอลลาร์ และเป็นบล็อกที่ใช้งานได้ง่ายมาก แถมยังสามารถลงโปรแกรม หรือ Application เข้ามือถือ ไม่ว่าจะเป็น Iphone หรือ Android ซึ่งจะทำให้ท่านสามารถทำงานผ่านโทรศัพท์มือถือได้อย่างง่ายดาย ทำให้แม้แต่ผู้สูงอายุในต่างประเทศ เข้ามาสนใจการทำเงินกับบริษัทนี้เป็นอย่างมาก

จริงๆ ผมน่าจะพูดถึงจุดนี้ตั้งแต่บรรทัดแรกๆครับ แต่ผมลืม เพราะการทำเงินทางมือถือนี่เป็นอะไรที่ร้อนแรงมาก เนื่องจากคนเราสมัยนี้ ตื่นมาไม่มีมือถือนี่ ถึงขั้นอารมณ์เสียเลยก็มี แต่นึกดูครับ ว่าถ้าสิ่งเสพติดอย่างโทรศัพท์มือถือ สามารถทำเงินให้ท่าน มันจะมีพลังขนาดไหน

ทำเงินยังไง?

ผมจะสรุปการทำเงินง่ายๆโดยที่ท่านไม่ต้องไปเสียเวลาอ่านอีก15 หน้าครับ

คอนเซปต์คือ : 1-2-3

1. บล็อกทุกวัน 2. กระจายทาง โซเชียลมีเดีย 3. รอรับเงิน

1. บล็อกทุกวัน

ท่านสามารถเขียนเกี่ยวกับอะไรก็ได้ครับ ที่ท่านชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็น อาหาร ท่องเที่ยว หรือสำหรับสาวๆ อาจจะพูดถึงกระเป๋า แฟชั่น ประมาณนี้ครับ

2. กระจายทาง

โซเชียลมีเดีย คือกระจายบล็อกที่ท่านเขียน ไปทาง Facebook, Twitter, Google+ YouTube หรือ โซเชียลมีเดียต่างๆ ที่ท่านถนัด

3. รอรับเงิน

คืองี้ครับ ยกตัวอย่างบล็อกนี้ที่ท่านอ่านอยู่ ผมพูดถึงบริษัท Empower Network และธุรกิจเครือข่าย ซึ่งในช่วงท้าย ท่านจะเห็นข้อมูล การสมัคร เมื่อมีคนกดเข้ามาสมัคร ผมก็ได้รับเงิน $25 เหรียญ ทันทีครับ จริงๆ แล้ว คอนเซปต์ มันมีแค่นั้นเอง ท่านที่เขียนเกี่ยวกับการท่องเที่ยว อาจจะต่อท้ายว่า สนใจแบ่งปันเรื่องท่องเที่ยว และทำเงินออนไลน์ กดที่นี่ ประมาณนั้นครับ
https://www.empowernetwork.com/join?id=thainetwork
 

ส่วนเทคนิคการทำเงิน ที่ลึกลงไป ผมจะให้กับสมาชิกของผมทุกท่านครับ ที่ผมไม่ได้เขียนไว้ในนี้ เนื่องจากว่า เทคนิคมันไม่ใช่สำหรับทุกคนครับ บางท่าน ผมจะให้แบบหนึ่ง อีกท่านผมจะให้อีกแบบ เพราะแต่ละคน มีนิสัย ความชอบ อายุ หรือคุณวุฒิและวัยวุฒิ ที่แตกต่างกันไป แล้วข้อมูลเทคนิคต่างๆ มันเปลี่ยนแปลงได้ทุกวันครับ เพราะโลกออนไลน์มันเร็วมาก หนังสือที่ท่านซื้ออ่าน บางทีอ่านจบ มันก็เปลี่ยนไปหมดแล้วครับ อันนี้น่าจะพอเข้าใจนะครับ ส่วนท่านที่ยัง งงๆ อยู่ หยุดอ่านแล้ว โทรมาเลย ยินดีที่จะให้คำปรึกษาครับ

สุดท้ายนี้

ท่านผู้อ่านทุกท่านครับ ก่อนที่ท่านตัดสินใจสมัคร ถ้าท่านต้องการ ติดต่อผมก่อนยินดีเลยครับ เพื่อว่าผมเองจะได้ช่วยคิดอีกแรง ว่างานนี้เหมาะสมกับท่านหรือไม่ เพราะผมไม่สบายใจแน่นอนครับ ถ้าท่านสมัครเข้ามาแล้วไม่มีความสามารถ ในการทำเงิน ไม่ว่าจะเพราะเหตุผลเรื่องเวลา หรือความรู้ทางอินเทอร์เน็ต ถึงแม้ว่ามันจะง่ายกว่าการหาเงินออนไลน์ทุกวิธีก็ตาม แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนเหมาะสมกับงานออนไลน์ครับ
https://www.empowernetwork.com/join?id=thainetwork
 
จักร : 089-1073903
Line : jakkrapoljangin
Skype : Jakkrapol Jang-in
ลิงค์สมัคร Empower Network : http://goo.gl/NDSnrZ
https://www.empowernetwork.com/join?id=thainetwork

- ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านข้อความนี้ครับ ท่านจะเลือกทำอะไรก็ได้ ขอให้ท่านมีความอดทน และ ขยันขันแข็ง ท่านประสบความสำเร็จแน่นอนครับ สวัสดีครับ -

ทำเงินทางอินเทอร์เน็ต กับ Empower Network


https://www.empowernetwork.com/join?id=thainetwork
ปัจจุบัน Empower Network เป็นบริษัทที่ติดอันดับ1 ของโลกและผมภูมิใจที่เป็นหนึ่งในคนไทย กลุ่มแรก ที่นำธุรกิจนี้มาเผยแพร่สู่ประเทศไทย ให้คนไทยได้ ทำเงินจริงๆ ทางอินเทอร์เน็ต ท่านผู้อ่านทุกท่านครับ เหตุผลที่ผมเน้นคำว่าที่ 1 ของโลก อาจจะทำให้ท่านผู้อ่านสงสัยว่าเป็นความคิดของผมเอง  หรือ เป็นข่าวลือ หรือ เป็นเรื่อง สร้างขึ้นมา ท่านผู้อ่านทุกท่านที่พอมีความรู้ ทางด้านอินเตอร์เน็ต สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ จาก Alexa.com ครับ
https://www.empowernetwork.com/join?id=thainetwork

Alexa.com คือการจัดอันดับของเว็บไซต์ทั่วโลกโดยตัวเลขจะแสดงอันดับของการเข้าชมเว็บไซต์

จากการจัดอันดับ การเข้าชม ของบริษัท เครือข่าย บริษัทขายตรง และ ธุรกิจงานออนไลน์ จากทั่วโลก รวมแล้ว 8,700 กว่าบริษัท

Empower Network เพียงเวลา 2 ปี มีการเข้าชมมากที่สุดในโลกครับ

ผมขอบอกเลยว่า หากว่ามีบริษัท เครือข่าย ที่มีการเข้าชมมากกว่า Empower Network  หรือแซงบริษัทนี้ได้ ผมจะลบข้อมูลต่างๆ นี้ ทันทีครับ

เหตุผลที่พี่น้องไทยเราอาจจะยังไม่คุ้นเคย หรือยังไม่รู้จักกับ Empower Network ดี ถ้าเปรียบเทียบทับต่างประเทศแล้ว เนื่องจากว่า ข้อมูลของบริษัท ยังไม่มีการแปลเป็นภาษาไทยอย่างเป็นทางการครับ ซึ่งจริงๆ แล้ว เป็นโอกาสดี เนื่องจากเป็นบริษัทที่มีอายุเพียง 2 ปี ก่อตั้งมาในเดือนตุลาคม 2554แต่มีสมาชิกแล้ว ประมาณ 160,000 ราย ใน 140 ประเทศ (ข้อมูลเดือน ตุลาคม2556)
https://www.empowernetwork.com/join?id=thainetwork

แต่ถึงแม้ว่า จะยังไม่มีการแปลเป็นภาษาไทยอย่างเป็นทางการจากทางบริษัทแต่ภาษาอังกฤษของเว็บไซต์ Empower Network อ่านง่ายมากครับ หรือหาก เพื่อนๆ ต้องการ ก็ สามารถหาข้อมูลของ Empower Network ที่สมาชิกของผมได้แปลขึ้นมาคร่าวๆแล้ว และ ทาง Youtube วีดีโอที่ผมเองทำขึ้นมา เพื่ออธิบายแผนธุรกิจ และ ข้อมูลในการสร้างรายได้แบบง่ายๆจากโลกอินเทอร์เน็ตกับบริษัทนี้  เพราะจริงๆ ขั้นตอนการสมัครเท่านั้นเอง ที่ใช้เป็นภาษาอังกฤษ ส่วนขั้นตอนและเทคนิคการทำเงินนี้ ผมและทีมงานทุกคน จะทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถในการช่วยเหลือ และให้ข้อมูลกับพี่น้องคนไทยเองครับ ขณะนี้ ผมมีสมาชิกร่วมใกล้ตัว ทั้งชาวอินเดีย, เกาหลี, ไทย,สิงคโปร์,อเมริกา รวมถึงพี่น้องชาวไทยที่อยู่ในต่างประเทศ ที่ได้รู้จักกับ Empower Network มาก่อน แต่ต้องการร่วมงานกับทีมไทยแลนด์ของเราครับ
https://www.empowernetwork.com/join?id=thainetwork

ธุรกิจ Empower Networkนี้ทำได้ทั่วโลกครับ เนื่องจากเป็นภาษาอังกฤษ และรหัสเดียว ท่านสามารถแนะนำใครก็ได้ ทั้งที่รู้จักเป็นการส่วนตัว หรือไม่เคยเจอกันมาก่อน
จักร : 089-1073903
Line : jakkrapoljangin
Skype : Jakkrapol Jang-in
ลิงค์สมัคร Empower Network : http://goo.gl/NDSnrZ
https://www.empowernetwork.com/join?id=thainetwork

วันพุธที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2557

การลงทุนอัพเกรดกับ Empower Network

การลงทุนอัพเกรดกับ Empower Network เราสามารถตัดผ่านบัตร B1st ของธนาคารกรุ่งเทพได้ หรือผ่านบัตร K-web ของกสิกรได้
ใครที่ยังไม่มีบัตรธนาคารเหล่านี้ต้อง ไปทำเเล้วขอเปิด iBanking เพื่อใช้งานออนไลน์ เเละทำการ Verify บัตร Debit Visa นี้ให้เรียบร้อย เพื่อที่จะนำมาใช้งานออนไลน์ได้อย่างสะดวก
การ verify หรือการขอใช้งานบัตรในการใช้จ่ายออนไลน์

B1st card - http://www.earnwithmeforever.com/2014/01/be1st.html

K-web card - http://www.earnwithmeforever.com/2014/01/k-web-shopping-card.html

บริษัทจ่ายค่าคอมมิสชั่นให้หมด 100% เเบบนี้บริษัทเขาจะได้อะไร

เพื่อนๆหลายคนอาจสงสัยว่า บริษัทจ่ายค่าคอมมิสชั่นให้หมด 100% เเบบนี้บริษัทเขาจะได้อะไร คำตอบก็คือค่าธรรมเนียมรายเดือนที่สมาชิกต้องจ่ายเพื่อรักษาสิทธิ์การรับคอม 100% 19.95$ หรือ 6xx บาท/เดือน ดังนั้นในเเต่ละเดือนสมาชิกทุกคนจะต้องจ่ายเงินเข้าระบบ 1500 บาทต่อเดือน หรือ 45$/เดือน นั่นเอง ซึ่งถือว่าชิวๆครับ ลงทุนต่ำมาก กับการสร้างทีมเเละสูตรประยุกต์เราเเล้ว รายได้เราจะเยอะกว่ารายจ่ายรายเดือนเเน่นอนเเละเยอะขึ้นเรื่อยๆ โอกาสขาดทุนจากการทำทีมยากมาก เพราะใครไม่มีรายได้พอที่จะจ่ายรายเดือนเรามี Profit pool หรือกระปุกออมสินประจำทีมเราไว้ช่วยอยู่เเล้วคับ ที่สำคัญเราจะช่วยกันทำทีมเรื่อยๆ ซึ่งผมมั่นใจว่าทำง่ายด้วยการเล่นตามสูตรของเรา เเละมันลงทุนต่ำมากๆ ยิ่งผู้เล่นในทีมเราเยอะ เงินในกระปุกเราจะเยอะขึ้นเรื่อยๆเเบบไม่มีลิมิตครับ มันจะเป็นรายได้ให้เราอย่างมั่นคงจริงๆ

การเตรียมบัตร Be1st (บัตรบีเฟิร์ส ธ.กรุงเทพ ฯ)

Be1st บัตรบีเฟิร์ส ธ.กรุงเทพ ฯ

อีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับผู้ที่ไม่มีบัตรเครดิต สามารถนำ บัตรเดบิต ( ATM ) คือ บัตร Be1st ( บี-เฟิร์ส ) ของ ธนาคารกรุงเทพฯ เอามา Verify เพื่อใช้เป็น เสมือนบัตรเครดิตออนไลน์ได้

ผู้มีบัตร Be1st อยู่ก่อนแล้ว สามารถ Verify นำมาใช้ได้เลย

สำหรับผู้ที่จะทำบัตรใหม่

- เตรียมบัตรประชาชน + ค่าธรรมเนียมบัตร ( 300 บาท ) + เงินฝาก 500 บาท
- ขอเปิดบัญชีออมทรัพย์ ก็ จะได้บัตร Be1st มาใช้

บัตร Be1st ( บีเฟิร์ส ) คือ บัตร ATM ที่ออกโดยธนาคารกรุงเทพ มีสัญลักษณ์ VISA อยู่หน้าบัตร


หากไม่ต้องการเสียค่าธรรมเนียมในการทำบัตร แนะนำ

ซึ่งทำได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้น จนเมื่อครบ 1 ปี จึงเก็บค่าธรรมเนียม ปีละ 200 บาท


บัตร be1st (บีเฟิร์ส) มี 3 แบบ

1. บีเฟิร์สทั่ว ๆ ไป มี csc 9 ตัวด้านหลังบัตร ดูรูปตัวอย่าง

be1st

2. แบบ International มี csc 3 ตัว หลังบัตร

3. แบบไม่มี csc ด้านหลังบัตร ให้ใช้ เลข 000 แทน (อาจใช้ไม่ได้ ต้องลองดูก่อน)

ข้อมูลของบัตรที่ต้องใช้
เลขบัตร 16 หลัก
อยู่ด้านหน้าบัตร (วงกลมที่ 1)
วันเดือนปีที่หมดอายุ
อยู่ด้านหน้าบัตร (วงกลมที่ 2)
บัตรไม่มีวันที่ให้ตั้งวันหมดอายุเอง โดยตั้งปีหมดอายุเกิน 4 ปีขึ้นไป
ชื่อเจ้าของบัตร
อยู่ด้านหน้าบัตร (วงกลมที่ 3)
เลข CSC 3 ตัว ท้าย
อยู่ด้านหลังบัตร (วงกลมที่ 4) ถ้าใครไม่มี ให้ลองใช้ 000



เตรียม Be1st พร้อมใช้ออนไลน์

การเตรียมบัตร Be1st ให้พร้อมใช้ในระบบออนไลน์

1. บัตร Be1st รุ่นหลังบัตรไม่มีเลข 3 ตัว
ให้ นำบัตรไปเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ นำสมุดบัญชี บัตรประชาชน และบัตร Be1st ไปที่สาขาของบัญชี ขอทำ บัตรรุ่นใหม่ มีเลข 3 ตัวหลังบัตร บางสาขาจะรับบัตรได้เลย บางสาขาจะให้รอ 7 วัน (ระบบ ธ. กรุงเทพ ฯ บางสาขาล้าหลัง ส่วนใหญ่เป็นต่างจังหวัด ลองถามดูว่าทำไมบางสาขาได้บัตรทันที เจ้าหน้าที่บางคน ไม่ได้ อัพเดทข้อมูลเลย ทาง ธนาคารปรับระบบให้รับบัตรได้ โดยไม่ต้องรอ 7 วันแล้ว)

2. บัตร Be1st รุ่นใหม่ที่มีเลข 3 ตัวหลังบัตร
ก่อนนำไปสมัคร Paypal ต้องทำขั้นตอนการ Verified by Visa กับ ธ. กรุงเทพ ฯ ก่อน มีขั้นตอนเป็น 3 ส่วน ดังนี้


โทรศัพท์ไป Verified ที่ 1333 หรือ +66-2645-5555
1333
- กด 1 เลือกภาษาไทย
- กด 7 เพื่อสมัครใช้บริการ Verified by Visa
- กด 1 ยืนยัน เพื่อทำการตั้งหมายเลขอ้างอิงสำหรับลงทะเบียน Verified by Visa
- กดหมายเลข 16 หลัก หน้าบัตร Be1st ของคุณ
- กดเลขบัตร เอทีเอ็ม 4 หลัก (หรือ รหัสลับส่วนตัว (PIN) ของคุณ กรณีทำบัตรมาใหม่ ๆ)
- กดตั้งหมายเลขอ้างอิง 8 หลักที่คุณต้องการ และกด #
- กดหมายเลขอ้างอิง 8 หลัก เดิมอีกครั้งอีกครั้งเพื่อทำการยืนยัน และ กด #

เป็นอันเสร็จสิ้นการขอหมายเลขอ้างอิง (Reference Code)

นำเลขอ้างอิง 8 หลักที่ตั้งเสร็จ ไป Verified by Visa ที่ ลิ้งค์เว็บไซต์ของ ธ.กรุงเทพ ฯ


การทำบีเฟิร์ส ที่ลิงค์ของธนาคาร มี 5 ขั้นตอน

1. ใส่เลข 16 หลัก หน้าบัตร บีเฟิร์ส กด next
2. Verify identity ตรงนี้ให้ใส่หมายเลขอ้างอิง 8 หลัก ที่ตั้งไว้ทางโทรศัพท์ กด next
3. Create password จะมีช่องให้กรอก
- ข้อความอ้างอิง ตั้งอะไรก็ได้เป็นภาษาอังกฤษ แนะนำให้ใส่ GDI
- ตั้งพาสเวิร์ด 6 หลักเป็นตัวเลขอย่างเดียว แล้วกรอกพาสเวิร์ดซ้ำ 2 ช่องต้องเหมือนกัน
- กรอกอีเมลที่ติดต่อได้สะดวก
- เบอร์โทรศัพท์มือถือที่ติดต่อได้ ระบบจะใส่ 0 ไว้ให้ ใส่เลข 8....ต่อได้เลย

4. Terns Conditions ตรงนี้เป็นหน้าต่าง กฎกติกา ให้อ่านแล้วติ๊ก ยอมรับ กด next
5. สมบูรณ์



ตั้งวงเงินในการใช้จ่ายสินค้า โทรไปที่ 1333 อีกครั้ง

- กด 1 เลือกภาษาไทย
- กด 3
- กด 3 อีกครั้ง
- กดหมายเลข 16 หลัก หน้าบัตร Be1st
- กดเลขบัตร เอทีเอ็ม 4 หลัก
- กด 2 เพื่อตั้งวงเงิน
- กด 1 เพื่อตั้งวงเงิน 2 หมื่นบาท

หมายเหตุ : วงเงินที่ตั้งคือ วงเงินที่จะใช้จ่ายออนไลน์สูงสุดได้ในแต่ละวัน ไม่ได้หมายถึงว่าจะต้องมีเงิน ในบัญชี และสามารถเข้ามาเปลี่ยน เพิ่มหรือลดได้ตลอดเวลา


เสร็จสิ้นขั้นตอนทำบัตร Be1st


"Be Secure®

"Be Secure®ความ ปลอดภัยรูปแบบใหม่ สำหรับนักช๊อปออนไลน์ เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ถือบัตร ธนาคารกรุงเทพ ในการชำระค่า สินค้าและบริการด้วยบัตรเครดิต ทางอินเทอร์เน็ต ธนาคารได้พัฒนา ระบบความปลอดภัย รูปแบบใหม่ ที่เรียกว่า "Be Secure?" เพื่อให้สามารถรองรับระบบ "Verified by Visa (VbV)" ซึ่งช่วยยืนยันตัวตนของผู้ถือบัตร ได้ถูกต้อง และ แม่นยำยิ่งขึ้น
"Be Secure®เป็น ระบบมาตรฐานความปลอดภัย รูปแบบใหม่ ที่ธนาคารกรุงเทพ ฯ บริษัทวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล และ บริษัทมาสเตอร์ การ์ดอินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมกันพัฒนาขึ้น สำหรับการชำระค่าสินค้า และบริการ ทางอินเทอร์เน็ต ด้วยบัตรเครดิต หรือ บัตรเดบิต ให้แก่ร้านค้าในระบบออนไลน์ เพื่อสร้างความมั่นใจ ให้ผู้ถือบัตร
โดยผู้ถือบัตรเครดิตและบัตรเดบิตธนาคารกรุงเทพ ฯ สามารถใช้ระบบ Be Secure? ได้ กล่าวคือ
- ผู้ถือบัตรเครดิตวีซ่าทุกประเภทและบัตรบีเฟิสต์ สามารถใช้บริการ Verified by Visa (VbV)
- ผู้ถือบัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ดทุกประเภท สามารถ ใช้บริการ MasterCard Secure Code

(ผู้ถือบัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ด ทุกประเภท เริ่มใช้บริการได้ตั้งแต่ 15 เมษายน 2550)

ประโยชน์ของการสมัครใช้บริการ Be Secure®
1.เพิ่ม ความปลอดภัย ในการชำระค่าสินค้า และบริการทางอินเทอร์เน็ต ด้วยบัตรเครดิตและบัตรเดบิต ด้วยรหัส VbV/Secure Code ซึ่งผู้ถือบัตรเป็นผู้กำหนดขึ้นเอง เพื่อป้องกัน ไม่ให้บุคคลอื่น ลักลอบใช้ หมายเลขบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต ของคุณ ในการทำธุรกรรมทางอินเทอร์เน็ต
2. เพิ่มความมั่นใจ ด้วยการใช้รหัสส่วนตัว (PAM) ที่จะปรากฏในหน้าเว็บไซต์ขณะทำรายการ เพื่อให้แน่ใจว่า คุณกำลัง ทำธุรกรรมกับร้านค้าที่ได้รับการรับรอง จากบริษัทวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล และ บริษัทมาสเตอร์การ์ด อินเตอร์เนชั่นแนล
3. คุณสามารถสมัครใช้บริการนี้ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น


โดยส่วนตัว หากเลี่ยงได้ อยากให้ไปใช้ k-web card ของ ธ.กสิกรไทย

( เป็นข้อแนะนำส่วนตัว )

ขั้นตอนเตรียมบัตร K-Web Shopping Card (บัตรเคเว็บ)

ขั้นตอนเตรียมบัตร K-Web Shopping Card (บัตรเคเว็บ)


ค่าธรรมเนียมการใช้บริการ


รายละเอียดค่าธรรมเนียม
1. ค่าสมัครใช้บริการ
ค่าธรรมเนียมแรกเข้า
ค่าธรรมเนียมรายปี
ไม่คิดค่าธรรมเนียม
ไม่คิดค่าธรรมเนียม
2. สอบถามยอดบัญชีไม่คิดค่าธรรมเนียม
3. ดูรายการเดินบัญชีย้อนหลังไม่คิดค่าธรรมเนียม
4. โอนเงิน (เฉพาะบัญชีที่มีการลงทะเบียนไว้แล้ว)
โอนเงินระหว่างบัญชีตนเอง
ในเขตสำนักหักบัญชีเดียวกัน
ข้ามเขตสำนักหักบัญชี
ไม่คิดค่าธรรมเนียม
หมื่นละ 10 บาท ตํ่าสุด 10 บาท สูงสุด 1,000 บาท
โอนเงินให้บุคคลอื่นที่มีบัญชีธนาคารกสิกรไทยไม่เกิน 10 รายการ/วัน
ในเขตสำนักหักบัญชีเดียวกัน
ข้ามเขตสำนักหักบัญชี
ไม่คิดค่าธรรมเนียม
หมื่นละ 10 บาท ตํ่าสุด 10 บาท สูงสุด 1,000 บาท
โอนเงินให้บุคคลอื่นที่มีบัญชีธนาคารกสิกรไทยตั้แต่รายการที่ 11 ขึ้นไป
ในเขตสำนักหักบัญชีเดียวกัน
ข้ามเขตสำนักหักบัญชี
15 บาท ต่อรายการ
หมื่นละ 10 บาท ตํ่าสุด 15 บาท สูงสุด 1,000 บาท
โอนเงินให้บุคคลอื่นที่มีบัญชีธนาคารอื่น
แบบออนไลน์(Online)
วงเงินไม่เกิน 20,000 บาท/รายการ
วงเงินมากกว่า 20,000 บาท แต่ไม่เกิน 50,000 บาท/รายการ
25 บาท ต่อรายการ
35 บาท ต่อรายการ
แบบเร่งด่วน(BAHTNET)120 บาท ต่อรายการ
ธนาคารผู้รับโอนคิดค่าธรรมเนียมจากผู้รับโอน ดังนี้
กรณีที่บัญชีผู้รับโอนเป็นบัญชีของสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑลธนาคารผู้รับโอนคิดค่าธรรมเนียม 100 บาท ต่อรายการ
กรณีที่บัญชีผู้รับโอนเป็นบัญชีของสาขาในต่างจังหวัดธนาคารผู้รับโอนคิดค่าธรรมเนียม 100 บาทต่อรายการ
+ หมื่นละ 10 บาท
แบบธรรมดา
วงเงินไม่เกิน 2,000,000 บาท/รายการ12 บาท ต่อรายการ
ผู้รับได้รับเงินโอนหลังจากวันที่โอน 3 วันทำการ
ธนาคารผู้รับโอนไม่คิดค่าธรรมเนียมจากผู้รับ
5. ชำระค่าบัตรเครดิตกสิกรไทยไม่คิดค่าธรรมเนียม
6. ชำระค่าสินค้าและบริการ เช่น เพจเจอร์, โทรศัพท์มือถือ, ค่าชั่วโมงอินเทอร์เน็ตอัตราค่าธรรมเนียมแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับข้อตกลง ของแต่ละบริษัท
7. บริการเรื่องเช็ค
ตรวจสอบการใช้เช็ค
อายัดเช็ค
ค่าสมุดเช็ค (รวมอากร)

ไม่คิดค่าธรรมเนียม
ไม่คิดค่าธรรมเนียม
ไม่คิดค่าธรรมเนียม แต่มีค่าสมุดเช็คเล่มละ 300 บาท
8. ค่าสมัครใช้ K-Web Card
ค่าธรรมเนียมแรกเข้า
ค่าธรรมเนียมรายปี
9. ค่าสมัครใช้ K-BANK e-Web
ไม่คิดค่าธรรมเนียม
ไม่คิดค่าธรรมเนียม 
หมายเหตุ
วง เงินสูงสุดในการทำธุรกรรมทางการเงิน (โอนเงินไปบัญชีบุคคลอื่น โอนเงินต่างธนาคาร หรือชำระค่าสินค้า และ บริการ) : 500,000 บาท/User ID/วัน

ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โดยธนาคารไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

สรุป

- ค่าเปิดบัญชีธนาคาร ฟรี
- ค่าบัตร ATM 200 - 500 บาท (ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ เพื่อไม่เสียเงินเพิ่มในส่วนนี้)
- ค่าเปิดใช้ K-Cyber Banking ฟรี
- ค่าเปิดใช้ K-Web Card ฟรี
- ฝากเงินในบัญชี 500 บาท

เบ็ดเสร็จ 500 - (1,000) บาท (ค่า ATM เป็นตัวแปร)

บริการ ทำธุรกรรมผ่านเน็ต เช่น โอนเงิน, ชำระเงิน, ดูรายการเคลื่อนไหว โดยไม่ต้องไปธนาคาร


ตัวอย่าง เคเว็บการ์ด จะเป็นเลขบัญชีเท่านั้น ไม่ได้เป็นตัวบัตร

k-webcard

ดูได้ในบัญชี ธนาคารกสิกรออนไลน์ ของเราเอง

ส่วนสำคัญที่จะต้องนำไปใช้งาน เสมือนบัตรเครดิต บนอินเตอร์เน็ต คือ
- เลขที่บัตร 16 หลัก
- cvv บางที่อาจเขียนเป็น csc
- วันบัตรหมดอายุ
- สถานะ ต้อง เป็น ปกติ เท่านั้น จึงจะนำไปใช้ได้ (สถานะ ระงับการใช้งาน / ยกเลิก จะใช้งานไม่ได้)


เปิดสมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย

เปิดสมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย พร้อมกับการเปิดบริการ K-Cyber Banking

คุณสมบัติของผู้สมัครใช้บริการ
- เป็นบุคคลธรรมดาที่มีบัญชีออมทรัพย์ หรือ บัญชีกระแสรายวันของธนาคารกสิกรไทย
- มี E-mail Address เพื่อใช้ในการติดต่อกับธนาคาร
- ยังไม่มี User ID ในการเข้าใช้บริการ K-Cyber Banking

หมายเหตุ: ธนาคารกำหนดให้ลูกค้า 1 ท่าน มี K-Cyber Banking User ID ได้เพียงชุดเดียว

เอกสารประกอบการสมัคร


- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (หรือ Passport กรณีเป็นชาวต่างชาติ)
- สมุดบัญชีที่จะใช้ในการสมัครบริการ (กรณีต้องการใช้บัญชีออมทรัพย์ที่เปิดอยู่แล้วในการสมัครบริการ)

หมายเหตุ : เอกสารดังกล่าวข้างต้น ต้องเป็นสำเนา ที่มีภาพถ่ายชัดเจน พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง โดย ลงลายมือชื่อ เดียวกับที่ปรากฏในใบสมัคร ซึ่งจะต้องตรงกับลายมือชื่อ ในสมุดบัญชีของทางธนาคาร


ขั้นตอนการสมัครใช้บริการ

1.สมัครบริการที่สาขาธนาคารกสิกรไทย
นำ บัตรประจำตัวประชาชน พร้อมกับสมุดบัญชี (กรณีต้องการใช้บัญชีออมทรัพย์ในการสมัครบริการ) ไปติดต่อที่ ธนาคารกสิกรไทยสาขาใดก็ได้ กรอกใบสมัครบริการ K-Cyber Banking พร้อมลงลายมือชื่อ แล้วยื่นใบสมัคร พร้อมเอกสารประกอบการสมัครแก่เจ้าหน้าที่

หมายเหตุ: ในกรณีที่คุณต้องการใช้บัญชีส่วนตัวมากกว่า 1 บัญชีผ่านบริการ K-Cyber Banking คุณสามารถ ทำรายการขอเพิ่มบัญชีได้ในภายหลัง

หมายเหตุ: ระบบจะจัดส่งรหัสผ่านสำหรับการเข้าสู่ระบบ K-Cyber Banking ให้กับท่านทาง E-mail ภายใน 1 วัน ทำการ

นำ บัตรประชาชน ไปเปิดบัญชีออมทรัพย์ ที่ธนาคารกสิกรไทย พร้อมทั้งบอกว่า ขอเปิดใช้บริการ K-Cyber Banking ด้วย (เค-ไซเบอร์-แบ้งกิ้ง) เจ้าหน้าที่จะเอาแบบฟอร์มให้กรอก ต้องกรอกอีเมล์ และเบอร์มือถือ (เอาไว้รับรหัสทาง sms หากไม่มีอีเมล์ ให้เปิดอีเมล์เอาไว้ก่อนไปธนาคาร)

ถ้ามีบัญชีกสิกรอยู่แล้ว เพียงนำสมุดบัญชี-บัตรประชาชน ไปขอเปิด K-Cyber Banking สาขาไหนก็ได้

2.สมัครบริการที่เครื่องเอทีเอ็มกสิกรไทย (K-ATM) ภายในช่วงเวลา 06.00 - 22.00 น.
ทำการสอดบัตรเอทีเอ็ม บัตรเดบิต หรือบัตรเครดิตที่ผูกกับบัญชีออมทรัพย์ หรือบัญชีกระแสรายวัน แล้วทำตาม ขั้นตอนดังนี้

สมัคร/เปลี่ยนแปลงบริการ/บริจาคการกุศล/อื่นๆ

สมัคร ที่ ATM

สมัครบริการ K-Cyber Banking

เลือก K-Cyber Banking

สมัครบริการ K-Cyber Banking อย่างเดียว หรือ
สมัครบริการ K-Cyber Banking และ K-Web Shopping Card พร้อมกัน

สมัครบริการ K-Cyber Banking และ K-Web Shopping Card

ประเภทบัญชีที่ต้องการสมัคร

ประเภทบัญชี

กดปุ่ม หมายเลขโทรศัพท์มือถือ (10 หลัก)

หมายเลขโทรศัพท์มือถือ

อ่านเงื่อนไข และ ข้อตกลงการสมัครใช้บริการ

ข้อตกลง

ระบบแจ้งการทำรายการเสร็จสมบูรณ์

ระบบแจ้ง

หมายเหตุ : ระบบจะจัดส่งรหัสผ่านสำหรับการเข้าสู่ระบบ K-Cyber Banking ให้ทาง SMS ภายใน 1 วันทำการ


การใช้บริการครั้งแรก


หลังจากได้รับรหัสผ่านแล้ว สามารถเข้าสู่ระบบ K-Cyber Banking ได้ที่เว็บไซต์ของธนาคาร โดยเลือก
บริการ K-Cyber Banking http://www.kasikornbank.com


ี่เว็บไซต์ของธนาคาร

หรือ

https://online.kasikornbankgroup.com/K-Online/ib/login_th.jsp

จากนั้นให้ทำการเข้าสู่ระบบด้านซ้ายมือ
- ในครั้งแรก รหัสผู้ใช้งาน (User ID) จะเป็นหมายเลขบัญชี ที่ใช้สมัครบริการ
- ใช้รหัสผ่าน (Password) ตามที่ธนาคารจัดส่งให้ทาง E-mail หรือ SMS ตามช่องทางที่สมัครบริการ

เข้าสู่ระบบ

เมื่อเข้าสู่ระบบ


ระบบจะให้กำหนด รหัสผู้ใช้งาน รหัสผ่าน ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และ อีเมล เพื่อใช้เข้าสู่ระบบ ในครั้งต่อไป เพื่อความปลอดภัยของคุณเอง

- การแก้ไขข้อมูลใช้งานและการตั้งค่าส่วนตัวเพื่อใช้บริการ K-Cyber Banking
- การเพิ่ม/ลดบัญชีส่วนตัว ที่ใช้ในบริการ K-Cyber Banking (Own Account List)
- เพิ่ม/ลดบัญชี (เฉพาะบัญชีกระแสรายวันและบัญชีออมทรัพย์) โดยส่งเอกสาร ผ่านทางโทรสารภายใน 5 วันทำการ นับจากวันที่ท่านได้แจ้งความจำนงผ่านบริการ K-Cyber Banking ทั้งนี้ ธนาคารจะดำเนิน การอนุมัติ เมื่อได้รับเอกสาร ที่ถูกต้องครบถ้วนแล้ว
- การเพิ่ม/ลดบัญชีบุคคลอื่น (Other Account List)
- กรณีลูกค้าที่ใช้รหัสรักษาความปลอดภัยแบบ PIN2: ส่งเอกสาร (คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียด) ผ่านทาง โทรสาร ภายใน 5 วันทำการ นับจากวันที่ท่านได้แจ้งความจำนง ผ่านบริการ K-Cyber Banking ทั้งนี้ ธนาคาร จะดำเนินการอนุมัติ เมื่อได้ รับเอกสารที่ถูกต้องครบถ้วนแล้ว
- กรณีลูกค้าที่ใช้รหัสรักษาความปลอดภัยแบบ OTP: เพิ่ม/ลดบัญชีผู้รับเงินของคุณได้ทันทีผ่านบริการ K-Cyber Banking โดยไม่จำเป็นต้องส่งเอกสารมาให้ธนาคารตรวจสอบเพิ่มเติม
- การตั้งชื่อย่อบัญชีเพื่อเรียกใช้งาน (Account Nickname)
- การเปลี่ยนแปลงข้อมูลในการติดต่อธนาคาร (Change Contact Information)
- การสร้างแบบฟอร์มชำระเงิน (Billing List) สำหรับรายการชำระเงินที่คุณต้องชำระบ่อยๆ
- การเลือกดูอัตราแลกเปลี่ยนที่คุณสนใจ (Favorite Financial Rate)
- การกำหนดเมนูลัดสำหรับบริการที่ใช้บ่อย (Favorite Transaction) ไว้ที่หน้าหลักของบริการ
- การเปลี่ยนรหัสผ่าน (Change Login Password)
- การตั้งค่าความปลอดภัย (Security Password Setting)


รหัสผ่านสำหรับการใช้บริการ :

ในการใช้บริการ K-Cyber Banking ธนาคารจะให้คุณกำหนดรหัสใช้บริการ 2 ประเภท คือ

1.รหัสผ่านเข้าสู่ระบบ (Login Password): เป็นรหัสที่คุณใช้ในการเข้าสู่บริการ K-Cyber Banking
2.รหัสรักษาความปลอดภัย (Security Password) แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ
- รหัสรักษาความปลอดภัยแบบ PIN2: เป็นรหัสที่ใช้ยืนยันการทำธุรกรรมทางการเงินที่สำคัญ อาทิ โอนเงินไปยัง บุคคลอื่น หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนตัว เช่น เพิ่ม/ลดบัญชีใช้งาน เปลี่ยนแปลงข้อมูล ติดต่อ ธนาคาร
- รหัสรักษาความปลอดภัยแบบ OTP (One Time Password): เป็นรหัสที่ใช้ยืนยันการทำธุรกรรม ทางการเงิน ในแต่ละครั้ง โดยเมื่อมีการทำรายการทางบัญชี หรือ มีการเปลี่ยนแปลง ข้อมูลส่วนตัว ระบบจะส่งรหัสผ่านOTP (6 หลัก) พร้อมรหัสอ้างอิง (4 หลัก) ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ (SMS) ทั้งนี้ คุณจะต้องกรอกรหัสผ่านOTP เพื่อยืนยัน การทำรายการภายใน 6 นาที ในกรณีที่ไม่ได้ใส่รหัสผ่านOTP ภายในเวลาที่กำหนด ระบบจะส่งรหัสผ่าน OTP ผ่านทาง โทรศัพท์มือถือ (SMS) อีกครั้ง

หมายเหตุ:
1. คุณสามารถเลือกใช้รหัสรักษาความปลอดภัย (PIN2) หรือรหัสผ่าน OTP ได้ตามความต้องการ โดยสามารถเข้าไป ตั้งค่าได้ที่ แก้ไขข้อมูลส่วนตัว > ตั้งค่าความปลอดภัย
2. ในกรณีที่คุณลืมรหัสผ่านเข้าสู่ระบบ และรหัสรักษาความปลอดภัยแบบ PIN2 คุณสามารถติดต่อ K-Contact Center โทร. 0 2888 8888 ด้วยตนเอง เพื่อขอให้ธนาคารออกรหัสชุดใหม่

วงเงินในการทำรายการ

- คุณสามารถทำรายการโอนเงินให้บุคคลอื่น/โอนเงินต่างธนาคาร/ชำระค่าสินค้าและ บริการ รวมกันได้ ไม่เกิน 500,000 บาท/ User ID/ วัน และสามารถโอนเงินระหว่างบัญชีตนเองได้ ไม่จำกัดวงเงิน
- ภาษาที่รองรับการใช้งาน : ภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ

วัน-เวลาในการให้บริการ : ให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

หมายเหตุ : กรณีทำรายการชำระบัตรเครดิตกสิการไทย หรือ ชำระค่าสินค้าและบริการ ระหว่างเวลา 22.00 น . - 24.00 น . ระบบจะรับคำสั่งของท่านไว้ และจะทำรายการดังกล่าว ในเวลาประมาณ 00.05 น . ซึ่งจะถือว่าเป็นรายการ ของวันถัดไป



บริการ K-Web Shopping Card
1 สมัครบัตร (Apply Card) บัตรเดบิตเสมือนจริง (Virtual Debit Card) สำหรับใช้ซื้อสินค้า และ บริการ ผ่านทาง อินเทอร์เน็ต
2 ดูรายละเอียดบัตร (View Card Details) อาทิ หมายเลขบัตร 16 หลัก หมายเลข CVV และ เดือน/ปีที่หมดอายุ
3 เปลี่ยนวงเงินซื้อสินค้า (Change Card Limit) ควบคุมการใช้จ่ายบนอินเทอร์เน็ตได้ด้วยตนเอง โดยมีวงเงิน ตั้งแต่ 0-100,000 บาท
4 ดูรายการซื้อสินค้า (Statement Inquiry)
5 อายัดบัตร (Suspend Card)
6 แบบฟอร์มการทักท้วง (Download Dispute Letter)


เริ่มเปิดใช้ K-Cyber Banking

1. เข้าเว็บไซต์ ธนาคารกสิกรไทย

คลิก https://online.kasikornbankgroup.com/K-Online/ib/login_th.jsp
ชื่อผู้ใช้งาน ..........(หมายเลขบัญชีธนาคารของคุณ)
รหัสผ่าน .............(หมายเลข PIN 1 ที่ธนาคารให้มา)
เลือก ภาษาไทย
คลิก เข้าสู่ระบบ

กสิกรออนไลน์2

2. อ่านเงื่อนไข ตามภาพ แล้ว คลิก ยอมรับ

กสิกรออนไลน์3

3. กรอกรายละเอียด

กำหนดชื่อผู้ใช้งาน
- ชื่อผู้ใช้งาน พิมพ์ ชื่อที่เราต้องการใช้ Login กำหนด 6-8 ตัวอักษร โดยเป็นตัวอักษรทั้งหมด , ตัวเลข ทั้งหมด หรือ ผสมกันก็ได้
- ยืนยันผู้ใช้งานอีกครั้ง พิมพ์เหมือนเดิมอีกครั้ง

กำหนดรหัสผ่าน
- รหัสผ่านเดิม พิมพ์ รหัส PIN 1
- รหัสผ่านใหม่ พิมพ์ รหัส ที่เราต้องการ ให้มี 8-10 ตัวอักษร โดยเป็นตัวอักษรทั้งหมด , ตัวเลข ทั้งหมด หรือ ผสมกันก็ได้
- ยืนยันรหัสผ่านใหม่อีกครั้ง พิมพ์รหัสใหม่อีกครั้งให้เหมือนกัน

*จดชื่อผู้ใช้งาน และรหัสผ่านใหม่ เอาไว้ใส่สมุดเพื่อกันลืม

กสิกรออนไลน์4

4. กรอกข้อมูลของคุณช่องที่มีเครื่องหมาย (*) ต้องพิมพ์ให้ครบ

กสิกรออนไลน์5

5. ตรวจดูข้อมูลของคุณว่าครบหรือไม่อีกครั้ง ถ้าครบ กดปุ่ม ยืนยัน

กสิกรออนไลน์6

6. รหัสรักษาความปลอดภัย

- รหัสรักษาความปลอดภัยใหม่ พิมพ์ รหัสความปลอดภัยที่คุณตั้งขึ้นต้องมี 10-12 ตัวอักษร โดยเป็น ตัวอักษร ทั้งหมด , ตัวเลขทั้งหมดหรือผสมกันก็ได้
- ยืนยันรหัสรักษาความปลอดภัยใหม่อีกครั้ง พิมพ์ รหัสความปลอดภัยที่คุณตั้งขึ้นอีกครั้งให้เหมือนกัน

** แนะนำให้ใช้รหัส OTP โดยเลือกที่ช่องแล้วใส่หมายเลขโทรศัพท์ลงไป โดยทุกๆ ครั้ง ที่มีการทำ ธุรกรรม ทางการเงินผ่านเว็บ จะมีการแจ้ง Password ไปที่โทรศัพท์ ทำให้เราไม่ต้องจำ แล้ว Password แต่ละครั้ง ก็จะไม่เหมือนกัน ดังนั้น จะปลอดภัยมาก

กสิกรออนไลน์7

7. เจอหน้านี้ ก็เรียบร้อย กับการตั้งค่าเมื่อเข้าสู่บริการครั้งแรก

กสิกรออนไลน์8

8. เข้าสู่หน้าจอหลัก

เป็น หน้าสมาชิก ในเว็บกสิกรไทยของคุณเอง ส่วนนี้คือส่วน ที่เค้าเรียกกันว่า บริการ K-Cyber Banking ที่คุณจะสามารถ ใช้บริการธนาคารออนไลน์ได้ โดยเฉพาะการดูรายการเคลื่อนไหวบัญชี เช่นการรับเงิน ถอนเงิน โอนเงิน ชำระเงิน ต่าง ๆ เป็นต้น คุณก็สามารถคลิกดูที่เมนูต่าง ๆ ได้ ลองหัดใช้ดูได้เลย

กสิกรออนไลน์9


การเปิดใช้ K-Web Card

9. K-Cyber Banking ใช้ได้แล้ว

ต่อไปทำ เคเว็บการ์ด คลิกที่ ออมเงิน และลงทุน

ออมเงิน และลงทุน

10. สมัครบัตรเว็บการ์ด ตรงกลาง ๆ หน้า

เว็บการ์ด

11. กำหนดวงเงิน

การ กำหนดวงเงิน คือกำหนดว่า แต่ละเดือน เราจะจำกัดตัวเองให้ใช้เงินได้ไม่เกินกี่บาทต่อเดือน เช่น 2000 บาท หรือ 3000 บาท (เฉพาะสำหรับบัตรเคเว็บการ์ดใบนี้) ถ้าหากเดือนนั้นใช้เงินจนเต็มวงเงินแล้ว ก็จะไม่สามารถใช้เงินได้อีก ในส่วนนี้ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอด เท่าที่เราต้องการ

กำหนดวงเงิน

12.อ่านเงื่อนไข แล้วคลิก ยอมรับ

เงื่อนไข

13. กรอกรหัส OTP

จะมี SMS ส่งเข้ามือถือของคุณเบอร์ที่กรอกไว้กับธนาคาร ให้เอารหัสจาก SMS มากรอก

รหัส OTP

14. แสดงการขอบัตรเคเว็บการ์ดเสร็จแล้ว

รอประมาณ 1 วัน ถึงจะได้เลข บัตรเคเว็บ

บัตรเคเว็บการ์ด


หลังจากเวลาผ่านไป 1 วัน

Login เข้าไป ที่เว็บไซต์ของธนาคารกสิกรไทย

https://online.kasikornbankgroup.com/K-Online/ib/login_th.jsp

ด้วย Username และ Password ใหม่ ที่ได้ตั้งไป (ที่จดเอาไว้) คลิกที่ ดูรายละเอียดบัตร ที่เมนูด้านซ้ายมือ

รายละเอียดบัตร

เลือกบัญชีที่มีตัวเลข 16 หลัก (ที่ยาวกว่า) คือ เลขเคเว็บการ์ด ที่เราได้มา

เลข 16 หลัก

ถ้า มี เพียง 1 บัญชี แสดงว่า ทางธนาคาร ยังไม่ได้ส่ง เลขที่ K-web Card มาให้ ต้องรอ หากเกิน 24 ชม. นับจากวันที่ขอบัตร (ข้อ 14) ก็สามารถโทรไปเร่งธนาคารได้

K-web Card

รายละเอียด ของ เคเว็บการ์ด

ที่สามารถใช้ข้อมูล นำไปสมัครทำ ธุรกิจ GDI หรือ ธุรกิจออนไลน์อื่น ที่เรียกหาบัตรเครดิตได้
cvv = หมายเลขรหัสความปลอดภัย (บางที่อาจเจอ csc คือตัวเดียวกัน)